ปีที่แล้วมีงานรีแบรนด์งานนึง ที่ดีต่อใจมาก อยากมาเล่าให้ฟังค่ะ แบรนด์ชื่อว่า “มาบเอื้อง” งานที่เราทำอยู่ในกลุ่ม personal care ที่แปรรูปจากผลผลิตการเกษตร ดีต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนในชีวิตค่ะ
มาบเอื้องเป็นชื่อของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ที่ก่อตั้งโดย อ.ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าหลักการกสิกรรมธรรมชาติ และทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงที่อาจารย์เชื่อมั่น สามารถสร้างความยั่งยืนในชีวิตได้จริง อ.ยักษ์จึงเลือกพื้นที่ที่แห้งผาก ดินแข็งโป๊ก ปลูกอะไรไม่ขึ้นเลย แล้วทดลองใช้หลักกสิกรรมธรรมชาติ มาฟื้นฟูพื้นที่ ปรับปรุงดิน พัฒนาสิ่งแวดล้อม ปลูกป่าขึ้นมาเพื่อคืนชีวิตให้ธรรมชาติ จน 5 ปีผ่านไป กลายมาเป็นศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ที่อุดมสมบูรณ์ ยั่งยืน และปลอดภัยอย่างที่เห็นทุกวันนี้ค่ะ
เมื่อทดลองจนสำเร็จแล้ว จึงอยากส่งต่อความรู้ประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนได้มีชีวิตที่ดี มีความยั่งยืน และสามารถพึ่งพาตัวเองได้ (จนถึงวันนี้ มีคนมาเรียนรู้จากที่นี่ร่วมเจ็ดแสนคนแล้วนะคะ)
สินค้าของมาบเอื้อง ได้มาจากผลผลิตทางการเกษตรของศูนย์ฯ และเครือข่ายที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ เป็นสมุนไพรสดที่นำมาแปรรูป ซึ่งจะแตกต่างตรงที่ มีคุณประโยชน์ที่หลากหลายมากกว่า จากสารต่าง ๆ ที่ไม่ได้ถูกสกัดออก ทำให้ผลิตภัณฑ์ของมาบเอื้องมีความใกล้เคียงกับการใช้ของจากธรรมชาติจริง ๆ ลดการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น ส่วนผสมของสารเคมีที่ไม่อันตรายอยู่ในระดับต่ำกว่า 30% หรือไม่มีเลย แต่เรื่องที่ยังติดอยู่นิดเดียว ก็คือการที่สินค้าของมาบเอื้องยังสื่อสารเรื่องราวออกมาไม่ชัดเจน และยังไม่โดดเด่นจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอื่น ๆ พวกเราเลยได้เข้ามา เพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ค่ะ
Branding
ทีมเราได้ศึกษาแนวคิด จากการสัมภาษณ์คุณปลาย ผู้จัดการด้านการตลาดเพื่อสังคม ได้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และไปเรียนรู้หลักการทำกสิกรรมธรรมชาติด้วยตัวเอง โดยการไปนอนอยู่ที่นั่น 2 คืน (อาหารอร่อยมากนะคะ เบสิกมาก ๆ อร่อยแบบธรรมชาติจริง ๆ) แล้วจึงเริ่มรีแบรนด์ มาบเอื้อง กันค่ะ
สิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ชัดเจนว่า มาบเอื้องเท่ากับอะไร เพราะเอาจริงๆ เมื่อพูดคำว่า กสิกรรมธรรมชาติ หรือเศรษฐกิจพอเพียง แต่ละคนก็จะเห็นภาพไม่เหมือนกัน และเราเห็นว่า การสร้างความเข้าใจโดยใช้สินค้าเป็นหัวหอกนั้น น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้เข้าถึงคนได้ง่าย ทำให้เห็นภาพได้ง่าย
เพราะฉะนั้น เราจะทำ branding ของมาบเอื้องในฐานะขององค์กร แต่จะสื่อสารโดยใช้สินค้าเป็นอันดับแรกก่อนนะคะ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือแฟนคลับ ที่ติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของทางศูนย์อยู่แล้ว คนที่เข้าใจและสนใจเรื่องราว ของกสิกรรมธรรมชาติและเศรษฐกิจพอเพียง โดยรองลงมาคือกลุ่มที่คน ที่เลือกซื้อเพราะว่าเป็นสินค้าจากธรรมชาติ ที่อ่อนโยน ไม่ทำให้แพ้
ส่วนจุดเด่นของผลิตภัณฑ์มาบเอื้อง คือ
- เป็นสินค้าจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ที่ต้องการเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดี ให้ความรู้และการลงมือทำ เพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ยั่งยืน และพึ่งพาตัวเองได้
- ผลิตจากสมุนไพรสดที่ให้คุณประโยชน์อย่างรอบด้าน เป็นวัตถุดิบออร์แกนิก ที่ปลูกโดยเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ทำให้รู้ที่มาของวัตถุดิบ พร้อมการการันตีด้วยงานวิจัยจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ
- เป็นมิตรกับธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ลดการใช้สารเคมีทั้งหมด ไม่ส่งผลร้ายกับผู้ผลิต และปลอดภัยกับผู้ใช้ โดยเฉพาะคนที่แพ้ง่าย
Brand Being ของมาบเอื้อง คือ ‘แตกกิ่งก้านความเกื้อกูล สู่ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ’
ในมาบเอื้องมีคนที่เกื้อกูลกันมากมาย เป็นเครือข่ายที่เติบโตเหมือนกิ่งก้าน และทุกคนทำเพื่อให้ชีวิตและธรรมชาติ ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กันค่ะ
Design Direction
เรายึดจาก Brand Being เลยค่ะ ‘แตกกิ่งก้านความเกื้อกูล สู่ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ’ ที่มีความเอาใจใส่ การให้คุณค่าต่อทุกชีวิต ความเป็นธรรมชาติ และแสดงให้เห็นเรื่องราวของผู้คนที่ได้รับชีวิตที่ดี มีความยั่งยืน มีความสุข ซึ่งจะทำให้สินค้าของ มาบเอื้อง มีความพิเศษแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ personal care ออร์แกนิกแบบอื่น ๆ ที่จะพูดเฉพาะเรื่องของความอ่อนโยน ความปลอดภัย
ภายใต้ Mood & Tone ของ
- Organic
- Communal
- Ecosystem
- Lush
- Simple
- Standardised
หมายเหตุ Standardised ต้องมา เพราะคำว่ากสิกรรมธรรมชาติสำหรับหลายคน ดูไม่มีมาตรฐาน เชื่อถือไม่ได้ค่ะ (แต่โดยปกติเราจะไม่ได้ใส่คำนี้ค่ะ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าต้องมี)
Logo Design
เราปรับโลโก้จากเดิมเล็กน้อย เพราะของเดิมเป็นที่จดจำอยู่แล้ว โดยปรับให้ดูลงตัว และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น ขยับกราฟิกรูปใบไม้ให้มาอยู่ในขอบเขตของโลโก้ ที่ถูกปรับรูปแบบให้มีสัดส่วนที่ลงตัวขึ้น
Packaging Design
จุดหลักของ Packaging นี้คือเราอยากจะให้ผลิตภัณฑ์สามารถเป็นตัวกลาง ที่ทำให้คนรู้จักกับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องได้มากขึ้น โดยเล่าผ่านภาพประกอบ ตามคอนเซ็ปต์ ‘แตกกิ่งก้านความเกื้อกูล สู่ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ’ ออกมาเป็นภาพของต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านออกไป ต่อยอดกลายเป็นเหล่าเกษตรกร ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ชีวิตที่พึ่งพากันและกัน ระหว่างคนและธรรมชาติ ด้วยความยั่งยืน ซึ่งเมื่อรวมหลายสินค้าไว้ด้วยกัน ก็จะเห็นความเป็นชุมชน การร่วมมือกันของชาวกสิกรรมธรรมชาติ ใน Mood & Tone ของธรรมชาติ และมีความน่าเชื่อถือ อีกกิมมิคที่ใช้ คือเราหยิบเอาหนึ่งในแนวคิดสำคัญ มาเล่าบนบรรจุภัณฑ์ค่ะ นั่นก็คือ โคกหนองนาโมเดล ซึ่งเป็นหนึ่งในทฤษฎี ของหลักกสิกรรมธรรมชาติและเศรษฐกิจพอเพียง โดย simplify เส้น contour ของโคกหนองนา (อิงอัตราส่วนความสูงต่ำตามโคกหนองนาโมเดล) และกำหนดให้เป็นรูปทรงของฉลาก
Illustration
ทางด้านของเทคนิคของ Illustration ที่เราใช้ในการนำเสนอภาพบรรยากาศของธรรมชาติ ดอกไม้ใบไม้ ผู้คน และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ด้วยลายเส้นวาดมือ ให้ออกมาเป็นภาพสเก็ตช์กึ่งเสมือนจริง ที่ละเมียดละไม และดูมีความงดงามแบบธรรมชาติ ลงสีอย่างมี texture ให้งานภาพโดยรวมมีมิติ ให้ภาพสร้างความรู้สึก ของความอ่อนโยน สัมผัสได้ถึงความใส่ใจต่อชีวิต ความสุขกับสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว
Colors
จากการที่ได้ไปสัมผัสศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องมาด้วยตัวเอง เราเลือกใช้สีจากสีจริง ๆ ของต้นไม้ใบไม้ สมุนไพร และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ภายในธรรมชาติของศูนย์ เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบรรยากาศจริง ๆ
เป็นอีกงานที่เราภูมิใจ และดีใจมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแบรนด์ที่ดีต่อคนและดีต่อโลกแบรนด์นี้นะคะ
อยากชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความความความเกื้อกูล ความหวังดีที่ปลอดภัย และใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ จากผลิตภัณฑ์ของมาบเอื้องกันดูนะคะ เป็นสินค้า personal care ที่ใช้ดีมาก (ขายมานานแล้วค่ะ ผู้ใช้บอกต่อกันเรื่อยๆ) และยังได้สนับสนุนการส่งต่อองค์ความรู้ในการพึ่งพาตัวเองให้คนไทยอีกด้วย
สามารถติดตามช่องทางซื้อสินค้าของมาบเอื้องได้ที่ Facebook Mab-Ueang หรือส่ังผ่านเว็บไซต์เลยที่ Website Mab-Ueang
ต้องขอขอบคุณคุณลูกค้า ที่มอบโอกาสให้ยินดีดีไซน์ได้ทำงานที่สนุก มีความหมาย และดีต่อใจชิ้นนี้ด้วยนะคะ
Client: ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง
Brand: มาบเอื้อง
Branding / Design Direction / Design: YindeeDesign
Launched: March 2023